การศึกษาเล่าเรียนในยุค 4.0

Last updated: 16 ม.ค. 2560  |  926 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การศึกษาเล่าเรียนในยุค 4.0

ทำไมโรงเรียนที่ดีที่สุดของสิงคโปร์จึงเลิกสนใจเรื่องการให้เกรด

สิงคโปร์ ประเทศที่มีเด็กนักเรียนเรียนเก่งที่สุดติดอันดับโลก นักเรียนของประเทศนี้ครองแชมป์ครองแชมป์อันดับหนึ่งของโลกในผลสอบ PISA และคว้าแชมป์การสอบแข่งขันระดับโลกหลายต่อหลายครั้ง

แม้ว่าเด็กสิงคโปร์จะทุ่มเทให้กับการเรียนมาก แต่ส่วนใหญ่ก็มาจากการผลักดันของพ่อแม่ สิงคโปร์มักได้รับการกล่าวขานว่า กดดันเด็ก ๆ ให้หมกมุ่นอยู่กับการเรียนในห้องเรียนเพื่อแข่งขันกับคนอื่น

แม้จะเรียนเก่งแค่ไหน แต่จากการสำรวจของบริษัทธุรกิจกว่า 100 แห่งในสิงคโปร์พบว่า นักเรียนสิงคโปร์มีทักษะทางเทคนิคที่ดี แต่ในด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมนั้นแย่กว่าประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน บริษัทราว ๆ 1 ใน 3 บ่นว่าคนสิงคโปร์ไม่กล้าหาญที่จะเสี่ยง และไม่มีจิตวิญญาณของความป็นนักวิชาการ โดยเฉลี่ยต่ำกว่าคนจากประเทศอื่นๆ ในอาเซียนถึง 25%

มาวันนี้ วันที่สิงคโปร์ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของมาตรฐานทางการศึกษาโลก สิงคโปร์ตระหนักว่า การที่จะมาภูมิใจกับเรื่องเก่า ๆ ที่เคยประสบความสำเร็จไปแล้วของตนก็เหมือนอยู่นิ่ง ๆ ให้เพื่อนบ้านวิ่งแซงหน้าไป สิงคโปร์กำลังปรับเปลี่ยนเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องดังกล่าว....

เพื่อสร้างความเป็นนักประกอบการ เพื่อกระตุ้นให้เด็กนักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์และกล้าเสี่ยง เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนให้กับประเทศชาติ สิงคโปร์ปรับนโยบายการศึกษาใหม่ ลดการให้เกรด ทำให้การสอบง่ายขึ้น แต่ไปเน้นเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ ในระดับรากหญ้า

โรงเรียนรัฐหลายโรงเรียนในขณะนี้มีวิชาที่ไม่มีเกรด การสอบเข้ามหาวิทยาลัยมีคะแนน 10% ให้กับแอ๊บติจูดเทส และหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานเลิกจ้างคนเข้าทำงานโดยดูแต่เกรด

สิงคโปร์จะเลิกงมงายไร้สาระกับวามเป็นเลิศทางวิชาการ แต่หันไปเน้นทักษะด้านการประกอบการ และการท้าทายความคิดเห็นเก่า ๆ ซึ่งจะทำสิ่งเหล่านี้สำเร็จได้ด้วยการต้องถอดสมการของคำว่า "ข้อสอบยากๆ" ออกไปจากหัว เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ คือ ไอเดียใหม่ๆ และทัศนคติของความเป็นผู้ประกอบการ

นักเรียนสิงคโปร์ในสมัยนี้ไม่ต้องนั่งกังวลเรื่องการสอบอีกแล้ว แต่โรงเรียนจะกระตุ้นให้พวกเขาแสดงออก เพื่อการพัฒนาศักยภาพที่เป็นตัวของตัวเองของเขา ผลสอบไล่ระดับประถม (PSLE) จะไม่ระบุเกรดอีกต่อไป

นักเรียนสิงคโปร์จะไม่ได้เรียนหนังสือเพื่อตามล่าเกรด แต่เขาจะเรียนเพราะการเรียนสามารถพัฒนาศักยภาพของเขาได้ และทำให้เขามีความสุข

อีกไม่นานนี้ โรงเรียนมัธยมจะมีสาขาวิชาที่หลากหลายมากขึ้น มีโครงการต่าง ๆ เช่น ผลิตหุ่นยนต์ การดูแลสิ่งแวดล้อม ดนตรีและศิลปะ เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองในทางอื่นๆ ให้เด็กสิงคโปร์มีเรื่องอื่น ๆ ได้ทำนอกเหนือจากการอ่าน เขียนและคำนวณเลข

อึ้ง จี มิง รักษาการ รมต. ศึกษาของสิงคโปร์ ได้แถลงในรัฐสภาว่า "เราจะต้องช่วยนักเรียนของเราในการค้นหาความสนใจและความปรารถนาของตัวเขาเอง ว่าสิ่งที่เขาอยากทำจริงๆ นั้นคืออะไร"

"เราต้องช่วยเขาตัดสินใจเกี่ยวกับเส้นทางทางการศึกษาและอาชีพของเขาเอง โดยขึ้นอยู่กับความสนใจและจินตนาการของเขา"

"เราจะช่วยให้เขาพร้อมในการดำรงอยู่ในโลกใบนี้"

Powered by MakeWebEasy.com