Positive Thinking

Last updated: 27 ก.ย. 2559  |  661 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เรื่องที่น่าประทับใจ ที่เรียกว่า Positive Thinking

《緣份是找到包容你的人(clap)》
“บุญวาสนาก็คือการได้พบคนที่ยอมรับและอภัยให้เธอได้”

有一個男人為了參加小學同學會,特地上街買一條新長褲。 他回家穿上後,卻發覺長度多了十公分 。
มีผู้ชายคนหนึ่งเพื่อที่จะร่วมงานของเพื่อนนักเรียนสมัยเรียนชั้นประถม จึงได้เจาะจงไปซื้อกางเกงขายาวมาตัวหนึ่ง หลังจากกลับบ้านแล้วลองใส่ดู พบว่ากางเกงยาวไป 10 ซม.
於是請求媽媽替他改。媽媽說,身體不舒服,想早一點休息 , 今晚不想改。
ดังนั้นจึงได้ขอให้คุณแม่ของเขาช่วยแก้ให้ แม่ของเขาบอกว่า : ไม่ค่อยบาย อยากพักผ่อนเร็วหน่อย คืนนี้คงแก้ให้ไม่ได้
於是改請求太太替他改。 太太說,還有許多家事要做,今晚沒有時間改。
ดังนั้นเขาไปขอภรรยาของเขาให้ช่วยแก้ให้ ภรรยาของเขาบอกว่า : ยังมีงานบ้านมากมายที่จะต้องทำ คืนนี้คงไม่มีเวลาแก้ให้
於是改請求女兒替他改。女兒說,今晚跟男朋友約好去跳舞,沒有時間改。
ดังนั้นเขาไปขอลูกสาวของเขาให้ช่วยแก้ให้ ลูกสาวของเขาบอกว่า : คืนนี้ได้มีนัดกับเพื่อนชายไปเต้นรำแล้ว คงไม่มีเวลาแก้ให้
他想想,既然如此,明天穿舊的長褲去同學會也可以!
ผู้ชายคนนั้นคิดว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ พรุ่งนี้ใส่กางเกงขายาวตัวเก่าไปงานก็ได้
當天晚上,他媽媽心想:「兒子平時對我很孝順,他開口要求總不好拒絕他。」於是,起來替兒子改長褲,剪短了十公分 。
คืนนั้น แม่ของเขาคิดในใจว่า : “ปรกติลูกชายกตัญญูต่อฉันมาก วันนี้เขาเอ่ยปากขอร้อง ถ้าปฏิเสธก็จะไม่ดี” ดังนั้น จึงลุกขึ้นมาแก้กางเกงขายาวให้ลูกชาย โดยตัดสั้น 10 ซม.
他太太稍晚做完家事心想:「老公平時很有耐心,今天他是不會縫針線才開口要求,總不好拒絕他。」 於是替先生改長褲,剪短了 十公分 。
พอดึกหน่อย ภรรยาของเขาเมื่อทำงานบ้านเสร็จก็คิดว่า : “ปรกติคุณสามีเป็นคนที่อดทนมาก วันนี้คงเป็นเพราะเขาเย็บปักถักร้อยไม่เป็น จึงได้เอ่ยปากขอร้อง ถ้าปฏิเสธก็จะไม่ดี” ดังนั้นจึงไปแก้กางเกงขายาวให้สามี โดยตัดสั้น 10 ซม.
他女兒晚上回來:「爸爸不阻止我去跳舞,實在是開明的老爸,今天實在應該替他修改長褲。」於是替爸爸改長褲,剪短了 十公分 。
ลูกสาวของเขาคืนนั้นกลับมาบ้านก็คิดว่า : “พ่อไม่ได้ห้ามฉันที่ออกไปเต้นรำ ช่างเป็นคุณพ่อที่มีความคิดก้าวหน้า วันนี้จึงควรแก้กางเกงขายาวให้เขา” ดังนั้นจึงไปแก้กางเกงขายาวให้พ่อ โดยตัดสั้น 10 ซม.
第二天早上,三個女人分別告訴男主人此事。他一試長褲,已經變成吊腳褲了。
เช้าวันที่ 2 ผู้หญิงทั้งสามคนได้บอกเรื่องนี้กับชายคนนั้น เขาจึงลองใส่กางเกงขายาว ปรากฎว่ากลายเป็นกางเกงขาลอยไปแล้ว
他的反應是 ......哈哈一笑,說:「我一定要穿去給同學看,告訴他們,我的媽媽、太太、和女兒對我多好。」
การตอบสนองของเขาคือ.....หัวเราะออกมา แล้วพูดว่า : “ฉันต้องใส่ไปให้เพื่อนนักเรียนดู แล้วบอกพวกเขาว่า คุณแม่ ภรรยาและลูกสาวของฉันปฏิบัติต่อฉันดีมาก”
結果,老同學們一致稱讚他家庭經營成功。他的媽媽、太太、和女兒也都很高興。
ผลคือ เพื่อนนักเรียนเก่าล้วนชมเชยว่าเขาจัดการเรื่องครอบครัวได้อย่างประสบความสำเร็จ ส่วนแม่ ภรรยาและลูกสาวของเขาก็ล้วนดีใจมาก

如果您是故事中的男人或女人,當下您會做何反應?「哈哈一笑」抑或「破口大罵」?
ถ้าหากคุณคือผู้ชายหรือผู้หญิงในนิทานนั้น ในตอนนั้นคุณจะมีปฏิกริยาอย่างไร? “หัวเราะออกมา” หรือ “หลุดปากด่าออกมา” ?
人,面對外人時,總是可以表現得雍容大肚、心平氣和,但面對自己最親近的家人,卻往往一點小事就足以皺起眉頭,甚至出言相傷。
คนเรานั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น มักจะสามารถแสดงออกมาซึ่งความใจกว้าง สุขุมเยือกเย็น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดที่สุด กลับมักจะเพราะเรื่องเล็กๆก็หน้านิ่วคิ้วขมวด ยิ่งไปกว่านั้นอาจพูดจาทำร้ายกัน
如果形容人類是一種 「出門高 E.Q ,回家低 E.Q」的動物,想一點兒也不誇張。
ถ้าบรรยายว่ามนุษย์เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ “ออกนอกบ้าน E.Q. สูง กลับมาที่บ้าน E.Q. ต่ำ” คิดแล้วก็ถือว่าไม่ใช่พูดจนเกินไปเลย
我們應該要多拿出一點耐心與幽默感給家人吧!否則您自己也不會快樂,不是嗎?
พวกเราควรจะมีใจที่อดทนสักหน่อยและมีอารมณ์ขันมอบให้กับคนในครอบครัวนะ มิเช่นนั้นตัวคุณเองก็ไม่มีความสุข ไม่ใช่หรือ?
有時候我們轉個念頭,或是多思考一秒,會發現心境有所不同,自己也會更愉快,自己快樂待人,也會將快樂傳染給別人。
บางครั้งเมื่อพวกเราเปลี่ยนความคิด หรือพิจารณาให้มากขึ้นอีกวินาที จะพบว่าจะมีสภาพจิตใจที่แตกต่าง ตนเองจะยิ่งมีความสุข ตนเองปฏิบัติกับคนอื่นอย่างมีความสุข ก็จะสามารถนำเอาความสุขถ่ายทอดไปยังผู้อื่นได้
人生不就正是這樣嗎? 與其悶悶度過一天,不如開心度過每一天。
ชีวิตคนเราไม่ใช่เช่นนี้หรอกหรือ? ถ้าต้องใช้ชีวิตผ่านไปวันๆด้วยความกลัดกลุ้ม มิสู้ใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างเบิกบานใจไม่ดีกว่าหรือ

Powered by MakeWebEasy.com