วิธีการที่พ่อสอนผม...

Last updated: 4 ก.ย. 2560  |  460 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วิธีการที่พ่อสอนผม...



ตอนเด็ก ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวมาก

หากเจออะไรที่ถูกใจก็ยึดไว้ก่อน

คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่สนใจไยดีคนอื่น

เพื่อนฝูงหายไปทีละคนสองคน

ญาติพี่น้องในบ้านเอือมระอา

สุดท้ายกลายเป็นคนไร้เพื่อนไร้คนคบ

ไม่มีใครอยากคบคนแล้งน้ำใจอย่างผม

ค่ำคืนหนึ่ง

พ่อยกบะหมี่ร้อนๆออกมาจากครัวสองชาม

ชามหนึ่งมีไข่ต้มหนึ่งฟองอยู่ด้านบน

อีกชามเห็นมีแต่เส้นบะหมี่ล้วนๆ

ยุคสมัยนั้น

ไข่ไก่เป็นของหายากมีราคาสูง

นานๆทีหรือในเทศกาลพิเศษจึงจะได้ลิ้มรสไข่ไก่

ตาผมลุกวาวทันทีเมื่อเห็นไข่ต้มสีขาวนวลฟองโตอยู่ในชาม

พ่อถามผมว่าอยากได้ชามไหน

ผมหยิบเอาชามที่มีไข่โดยไม่ลังเล

กำลังกินด้วยความเอร็ดอร่อย

เหลือบไปเห็นชามของพ่อมีไข่สองฟองอยู่ข้างล่าง

ผมได้แต่เสียดาย ใจร้อนไปหน่อย


พ่อสอนผมว่า..

"จำไว้ สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมด

คิดแต่จะเอาเปรียบคนอื่น

สุดท้ายคนที่เสียเปรียบคือเรา"

คืนถัดมา

พ่อเตรียมบะหมี่ออกมาสองชามเหมือนเดิม

สภาพเหมือนเมื่อคืน

คราวนี้ผมคิดว่าผมฉลาดขึ้น

ขอเลือกชามที่ไม่มีไข่

พ่อมองหน้าผมอย่างเงียบๆ

ไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ

ผมรีบนำตะเกียบคุ้ยเส้นบะหมี่

แน่ใจว่าวันนี้ต้องได้กินไข่สองฟอง

แต่ปรากฏว่าทั้งชามมีแต่เส้นบะหมี่

ไม่มีอะไรอยู่ข้างล่าง



พ่อพูดกับผมว่า...

"ลูกเอ๋ย อย่ามั่นใจกับประสบการณ์ของตนเองเกินไป

บางครั้งชะตากรรมก็ต้องการหลอกลวงหรือทดสอบเรา

มันอาจจะผิดพลาดหรือผิดคาดต่างจากประสบการณ์ครั้งก่อนๆ

ไม่ต้องโกรธ ไม่ต้องเศร้า

นั่นก็แค่บทเรียนชีวิตบทหนึ่งที่ควรต้องจดจำ

เรื่องพวกนี้คงต้องประสบพบเจอด้วยตัวเอง

ไม่มีสอนกันในห้องเรียน"

คืนที่สาม

พ่อเตรียมบะหมี่ออกมาสองชามเหมือนเดิม

มีไข่หนึ่ง ไร้ไข่หนึ่ง

พ่อให้ผมเลือกก่อน



แต่ผมได้บอกพ่อด้วยความจริงใจว่า...

"พ่อครับ พ่อเป็นผู้ใหญ่

พ่อเป็นคนเสียสละเลี้ยงดูผมมามากแล้ว

พ่ออยากได้ชามไหน

เชิญพ่อเลือกไปก่อนเถอะครับ"

พ่อไม่ได้ปฏิเสธ

พ่อยกเอาชามที่มีไข่ไป

ผมก็แน่ใจว่า ชามผมต้องมีแต่เส้นบะหมี่ล้วนๆ

แต่กลับปรากฏว่า

ชามของผมมีไข่สองฟองโตๆซ่อนอยู่ข้างล่าง

พ่อเงยหน้าขึ้น

แววตาพ่อเต็มไปด้วยแววแห่งความรักและห่วงใย

"ลูกรัก จำไว้อย่าได้ลืม

ถ้าลูกเป็นคนมีน้ำใจคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ

สิ่งดีๆในชีวิตก็จะแวะเวียนมาหาลูก

แต่หากชีวิตลูกต้องประสบพบเจอคนที่แล้งน้ำใจบ้าง

ก็ไม่ต้องไปใส่ใจถือโทษคนจำนวนน้อยเหล่านั้น

จงรักษาความมีน้ำใจของเราต่อไป"

คำพูดของพ่อ

ทำให้ผมละอายใจอย่างที่สุด

จากนั้นเป็นต้นมา

ผมจำคำสอนของพ่อไม่มีลืม

ไม่ว่าจะทำอะไร เจอใคร หรือทำธุรกิจกับใคร

ผมมักจะคิดถึงหัวอกหรือความรู้สึกของคนอื่นด้วย

ผมเริ่มเป็นคนมีน้ำใจ

เริ่มมีแต่คนรักคนชอบ

เริ่มมีคนอยากคบค้าสมาคมกับผม

แล้วมันก็จริงที่อย่างที่พ่อทำนายไว้

สิ่งดีๆวิ่งเข้ามาหาผมในชีวิตมากมาย

ตอนนี้ผมมีครอบครัวที่อบอุ่น

มีสังคมที่ห้อมล้อมไปด้วยคนดีๆ

และธุรกิจของผมมีแต่เจริญรุ่งโรจน์ไม่รู้จักจบจักสิ้น

ขอบพระคุณสำหรับคำสอนดีๆของคุณพ่อ



ผมรู้ซึ้งแล้วว่า...

พ่อพยายามทุกวิถีทางที่จะปลูกฝังให้ผมเป็นคนดีไม่เห็นแก่ตัว

นี่เป็นตัวอย่างบทหนึ่งที่พ่อสอดแทรกเข้ามาในชีวิตผมตั้งแต่เด็ก

โลกทัศน์ของผมค่อยๆเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว

ผมขอถือโอกาสส่งมอบสิ่งดีๆเหล่านี้ต่อไปให้ทุกๆท่าน

และถ้าจะกรุณาส่งต่อๆกันไป

ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีงาม

สังคมที่ดีมีน้ำใจไมตรีต่อกัน

ช่วยกันพัฒนาคนละไม้คนละมือ

แม้จะกินเวลา แต่สังคมต้องดีขึ้นแน่นอน

และที่สำคัญที่สุด

อย่าลืมปรับปรุงตัวเราเองเสียก่อน

แล้วสิ่งดีๆในชีวิตจะบังเกิดขึ้นกับเราไม่จบไม่สิ้น


แปลและเรียบเรียงบทความจาก..."ขจรศักดิ์"

Powered by MakeWebEasy.com