สีหน้า กับคำพูดจาสำคัญ "อย่าใช้มันกับผู้มีพระคุณ"

Last updated: 26 มิ.ย. 2560  |  446 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สีหน้า กับคำพูดจาสำคัญ "อย่าใช้มันกับผู้มีพระคุณ"

 

คุณแม่ชราคนหนึ่ง... เดินเข้าไปหาหนังสือพิมพ์ในห้องของลูกชาย เผอิญลูกชายกลับบ้านมาพอดี

ลูกชายหัวเสียมาจากการเจรจาการค้า การเจรจาครั้งนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ ลูกค้าไม่ยอมสั่งออร์เดอร์ตามเดิม จึงรู้สึกหงุดหงิดมาก

เมื่อเขาเห็นแม่เหมือนกำลังควานหาอะไรบนเตียงของเขา ความหงุดหงิดบวกเป็นความไม่พอใจ จึงตวาดออกไปว่า...

“แม่! มาทำอะไรที่ห้องผม อย่ายุ่งของๆผมนะ ผมบอกแม่กี่ครั้งแล้ว!”

แม่ของเขาหันมาอธิบายแก่ลูกชายว่า...

“แม่หาหนังสือพิมพ์ ก็เลยนั่งบนเตียงของแกแป๊บเดียวเอง”

ลูกชายแสดงสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ก่อนเดินออกจากห้อง ก็กล่าวทิ้งท้ายว่า...

“อยู่บ้านก็ไม่ทำอะไร ว่างมากหรือไง?”


เที่ยงคืนของคืนนั้น แม่ชราผู้อาภัพ ตัดสินใจโดดจากตึกชั้น 7 ลงมาเสียชีวิตในทันที...


…………………………


ท่านขงจื้อกล่าวไว้ว่า...


"การปรับสีหน้าให้เป็นปกติ คือกตัญญู"


เหตุใดการปรับสีหน้าให้เป็นปกติคือความกตัญญู ก็เพราะการจะทำสีหน้าให้ปกติเป็นเรื่องยาก


“กับข้าวอยู่ที่โต๊ะนะ กินไปเลยไม่ต้องรอ หนูงานยุ่ง!”

“ของพวกนี้ราคาแพงนะ เวลาใช้ก็ประหยัดหน่อยนะแม่!”

“ดึกขนาดนี้จะมานั่งรอผมทำไม ผมโตแล้วนะ วันหลังไม่ต้องนะแม่ รู้ไปถึงไหนผมก็อายไปถึงนั่น!”


เรางานยุ่งถึงขนาดนั่งกินข้าวกับพ่อแม่ไม่ได้เลยหรือ ?

หากของที่ซื้อมาในราคาแพงนั้น เราเอาไปให้เจ้านาย เราจะกล้าพูดแบบนี้ไหม?



ความห่วงหาอาทรที่พ่อแม่มีต่อลูก มันไม่เคยจางหายไปจากใจ ขอบคุณท่าน เมื่อคุณเห็นท่านนั่งรอคุณกลับบ้าน เหมือนคุณขอบคุณเพื่อนๆ เวลาคุณไปถึงงานเลี้ยงสาย

คุณทำกับคนอื่นได้ แต่กับพ่อแม่ คุณทำไม่ได้เลยหรือ?



ท่านบรมครูขงจื้อจึงกล่าวไว้ว่า...

“ยามท่านอยู่ เลี้ยงดูด้วยความเคารพ ยามปรนนิบัติ ให้ความสุขสบาย ยามท่านป่วย ให้การดูแลเอาใจใส่ หากวันหนึ่งท่านจากไป ให้ความอาลัยอย่างสุดซึ้ง (อย่าครึกครื้นเฮฮา แต่งหน้าแต่งตา กินดื่มไม่ต่างอะไรกับงานมหรสพทั้งๆที่พ่อแม่เพิ่งเสียไป:นุสนธิ์) ยามบูชาเซ่นไหว้ ให้ความสำรวม”

ได้โปรดระลึกว่า วันหนึ่งเราทุกคนก็ต้องแก่ เพียงแต่พ่อแม่แก่ก่อนเรา สิ่งที่เราควรมีก็คือความเข้าใจและปฏิบัติต่อท่านเหมือนที่เราอยากได้จากลูกหลานในอนาคต เราจึงมีความเพียรในการดูแล ไม่ปรักปรำพร่ำบ่น

ยามท่านอยู่ ดูแลเอาใจใส่ท่านเพิ่มอีกสักนิด เพราะเวลาของเรานับกันเป็นปี แต่เวลาของท่านอาจนับเป็นวันแล้วก็ได้



(Shared มาจากเพื่อนรัก.......)

Powered by MakeWebEasy.com