ดูแลสุขภาพกันบ้างนะครับ

Last updated: 7 มิ.ย. 2560  |  505 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ดูแลสุขภาพกันบ้างนะครับ

ยิ่งฟิต สมองยิ่งรุ่ง

ศ นพธีระวัฒน์ เหมะจุฑา

ไทยรัฐ 1 พค

มองไปทางไหนตอนนี้จะเริ่มเห็นคนปลายวัยกลางคน (รวมหมอด้วย) และคนแก่กันเต็มไปหมด

เจริญวัยขึ้นตามลำดับ แต่สุขภาพถดถอยเสื่อมไปจนแม้แต่สมองก็ไม่เว้น ที่เห็นประกาศ พ่อ แม่ ป้า อา หายจากบ้านเป็นเพราะหลงทาง จำทางไม่ได้จากสมองเสื่อม สมองฟีบ

ทั้งนี้ จำนวนคนหนุ่ม คนสาว วัยที่จะเป็นกำลังของชาติ ตามสัดส่วน จะน้อยลงเรื่อยๆ และประเทศต้องแบกรับคนวัยเพชรที่สุขภาพไม่ดีนัก

 

ซึ่งก็ยังพอทำเนา แต่ถ้าสมองเสื่อม ช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องการพี่เลี้ยงดูแลตลอดเป็นปีๆจนจากไป เห็นภาพแล้วนะครับ ฉะนั้นต้องชราแต่ยังแจ๋ว และรวมทั้งต้องแจ๋วตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะโรคทั้งหลายเพาะบ่มเป็นปีๆกว่าจะออกอาการ โดยเฉพาะสมองเสื่อมจะเพาะพิษในสมองเป็นสิบถึงสิบห้าปี

“สมองเสื่อม” ต่างจาก “สมองฝ่อ” ตามอายุ โดยที่ตามอายุที่มากขึ้นจะฝ่อส่วนหน้าผาก โดยหน้าที่ของสมองรวมทั้งความจำ การตัดสินใจยังปกติหรือพร่องบ้างนิดหน่อยพอรับได้ สมองฝ่อ สมองฟีบซึ่งมีอัลไซเมอร์เป็นผู้ร้ายสำคัญ จะมีการฝ่อที่สมองความจำปัจจุบัน ทางกลีบขมับทางด้านใน และเมื่อเป็นมากขึ้นจากลืมว่าพูดอะไร ทำอะไร ไปเมื่อครู่นี้ ก็จะลามไปสมองกลีบขมับด้านนอก ไปสมองใหญ่ด้านหน้า ด้านข้าง-หลัง กระทบการคัดหาคำพูด การใช้ภาษา ความเข้าใจ ไปจนถึงอารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง

สิ่งที่สังเกตได้ง่ายๆจากคนที่ใช้มือถือ กดนู่นดูนี่คราวนี้กดเบอร์ตามที่บอกงกๆเงิ่นๆ จะหาฟังก์ชันที่เคยทำประจำไม่ได้ คนที่เคยทำกับข้าวอร่อยมานานเป็นสิบๆปี กลับทำผัด ทำแกง ลืมหวาน ใส่เค็มมากไป รุนแรงจนกระบวนการหุงข้าว ติดเตาตั้งกระทะ สับสนไปหมด

 

ลองสังเกตเมื่อไหร่คนที่บ้านทำอาหารรสชาติประหลาดไป ทำถ้วยชามในครัวตกแตก มีดบาดบ่อย น้ำร้อนลวก และถามซ้ำถามซาก เป็นต้น ท่าจะแย่แน่แล้ว กระบวนการชะลอสมองฟีบทำได้ พิสูจน์แล้ว นั่นคือ ออกกำลังกายและออกกำลังกายสมอง ดังที่หมอเคยเล่าให้ฟังตอน “เซลล์สมองงอกใหม่ได้” ทั้งนี้ จะมีเซลล์ใหม่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ แม้ว่าจะปริมาณน้อยกว่าที่ตาย แต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่มีใหม่เลย การจะให้เซลล์เด็กๆที่เกิดใหม่ กลายเป็นเซลล์สมบูรณ์ ทำงานประสานกับเซลล์เดิมได้ ต้องประสานการออกกำลังกายและใช้สมองร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ข่าวดีล่าสุดในวารสารอัลไซเมอร์ (2016) พบว่าการฟิตร่างกายออกกำลังกาย ไม่ว่าจะทำท่าไหนก็ตาม จากเดิน วิ่ง จ๊อกกิ้ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ ตีแบด เทนนิส เต้นระบำ หรือเล่นกอล์ฟ (แต่กอล์ฟเมืองไทย หมอว่าไม่รุ่ง มีสาวๆแบกถุง เดินนิดเดียว แถมกินเลี้ยงหลังเล่นอีก) แต่ต้องแบกถุงเอง สามารถชะลอความฝ่อของสมองจนถึงสมองใหญ่ขึ้นได้

การศึกษานี้ทำที่สหรัฐฯ โดยติดตามคนจำนวน 876 ราย อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ วัดระดับพุทธิปัญหาของสมองเป็นระยะ แถมด้วยทำคอมพิวเตอร์สมองสนามแม่เหล็กไฟฟ้า แบบวัดปริมาณเนื้อสมองโดยละเอียดตามติดไป 5 ปี ผลปรากฏว่ายิ่งเผาผลาญพลังงานมากเท่าไหร่

 

ในการออกกำลัง จะชะลอสมองหดได้ โดยเฉพาะในส่วน posterior cingulate gyrus ส่วน precuneus และสมองส่วนท้ายทอย cerebellar vermis สมองส่วนท้ายทอย cerebellum คนส่วนใหญ่จะไม่ให้ความสนใจและไม่คิดว่ามีหน้าที่สัมพันธ์กับอัลไซเมอร์ แต่แท้จริงแล้วเกี่ยวข้องกับระบบความจำหลายส่วน ไม่ใช่แต่เรื่องการทรงตัวรักษาสมดุลอย่างเดียว

การเผาผลาญในระดับ 500 แคลอรีให้ผลดีมากในการชะลออัลไซเมอร์ และลดความเสี่ยงไปถึง 2 เท่า ถ้าออกกำลังเหยาะแหยะ เช่นตีกอล์ฟอย่างหมอว่า (หมอตีไม่เป็นนะครับ) เผาไป 50 แคลอรี จะไม่เห็นผลใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้ ผลประโยชน์ที่ได้จะไม่ขึ้นกับปัจจัยด้านอายุ ระดับการศึกษา ระดับสติปัญญา

นอกจากส่วนสมองที่กล่าวไปแล้วว่าได้รับประโยชน์โดยตรง สมองกลีบขมับด้านใน Hippocampus ซึ่งเกี่ยวกับการเก็บความจำปัจจุบัน ยังมีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ อาจเป็นจากการที่ออกกำลังกายเสริมสร้างระดับของ สารปกป้องสมอง BDNF (Brain–Derived Neurotrophic Factor) รวมทั้งทำให้เลือดลมเดินสะดวก ส่งออกซิเจนไปสมองเยอะขึ้น

ตั้งแต่ที่พิมพ์บทความสุขภาพหรรษามาจนถึงวันนี้ หมอเรียนว่าอย่าท้อ อย่าคิดเอาทางลัด อย่าคิดว่ารวยแล้วเป็นอะไรไม่ตาย ไม่พิการ ทุกอย่างไม่ได้ขึ้นกับหมอ ไม่ได้ขึ้นกับยาทั้งหมด ยาและหมออาจช่วยได้ระดับหนึ่ง การปรับพฤติกรรม ออกกำลังกาย เลือกอาหารเข้าใกล้มังสวิรัติ จะช่วยให้ชีวิตยืนยาว แบบไม่เป็นภาระให้คนอื่นๆ ทั้งนี้ ที่ว่าไปทั้งหมดต้องมีความสุขในการทำ มีความสุขในการให้ และการอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นครับ.

หมอดื้อ

(ศจ.นพ. ธีรวัฒน์

เหมะจุฑา)

Powered by MakeWebEasy.com