เหตุการณ์จริง ที่เตือนสติ

Last updated: 13 มี.ค. 2560  |  461 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เหตุการณ์จริง ที่เตือนสติ เล่าให้ฟังไปหลายครั้งแล้วแต่อยากเล่าซ้ำเพื่อเตือนสติก่อนจะสายเกินแก้ ถึงการดำเนินชีวิต ชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนา การเดินสายกลาง และปรัชญา ความพอเพียง การแบ่งเวลาชีวิตของตนเองออกเป็น 3 ส่วน เพื่อให้เกิดความสมดุลย์ คือ เวลาสำหรับโลกส่วนตัว, เวลาสำหรับครอบครัวและเวลาสำหรับการทำงาน ถ้าบริหารตนเองได้ตามหลัก 3 ประการนี้ จะมีความครบสมบูรณ์ในชีวิต.....

แนะนำให้อ่านครับ ใช้เวลาไม่กี่นาที คุณได้กำไรชีวิตมากมายเลย อย่าลืมแชร์สิ่งดีๆเหล่านี้ให้แก่คนที่คุณรักนะครับ...ขอบคุณครับ ( ^_^)~

---------------------------------------

...ที่เมืองไทยหลายปีก่อนแล้วมีข่าวเกรียวกราวมาก

คือมีดาราคนหนึ่งซึ่งมีชื่อดังมาก

เป็นคนดำเนินรายการคนค้นคน

ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร นะ

มาเรียนที่อเมริกา

เป็นคนเพอร์เฟคชั่นนิส

ทำงานทุกอย่างต้องดูดีที่สุดแม้กระทั้งล้างจาน

ล้างเสร็จแล้วแกต้องเอามาดมดู

ว่าสะอาดจริงมั้ย

กลับไปเมืองไทยก็ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย

มีแฟนก็จีบดาวมหาวิทยาลัยเลย

ต้องให้ดีที่สุด

เวลาแกไปเสนองานอะไรต่าง ๆ

เขียนไว้สามแผน

แผนที่หนึ่งลูกค้าไม่ซื้อ

แกเสนอแผนที่สอง

แผนที่สองลูกค้าไม่ซื้อแกเสนอแผนที่สาม

ใครไปดีลงานกับแกติดทุกราย

แกมีบ้าน มีรถ มีลูก มีภรรยา

มีธุรกิจ

มีชื่อเสียงทุกอย่าง

แกมีทุกอย่าง

วันหนึ่งแกพักผ่อน

หลังจากที่ทำงานแบบไม่ได้พักเลย

ลูกเมียไปขอพบ

บอกไปเจอพ่อที่ออฟฟิต

วันหนึ่งแกไปพักที่ปากช่อง

ตื่นขึ้นมากลางวันล้มฟุ๊บลงไป

ภรรยาพาเข้าโรงบาล

ตรวจพบมะเร็ง

พอพบปุ๊บเป็นระยะสุดท้ายเลย

จริง ๆ เค้าก็เตือนตลอด

แต่พอไม่มีเวลาไปตรวจมันก็แก้ไม่ได้

แกไปนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล

แล้วก็สารภาพให้รายการคนค้นคน

บันทึกชีวิตแก

ก่อนจะเสียชีวิต

แกก็ไปนอนให้พ่อแม่เช็ดเนื้อเช็ดตัว

แกก็บอกว่าสังเวชตัวเองมากแทนที่ลูกจะได้ดูแลพ่อแม่

กลับมาเป็นว่าพ่อแม่ต้องมาดูแลลูก

ก่อนจะเสียชีวิตแกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึกบอกว่า

พ่อผมเคยบอกว่า ...

เกิดเป็นคนต้องได้ปริญญาสองใบ

1...ปริญญาใบที่หนึ่ง ....

"ปริญญาวิชาชีพ"

เราจะต้องทำมาหากินเป็น

กินอิ่ม นอนอุ่น พูดง่าย ๆ

ล้วงไปในกระเป๋าแล้วมีเงินใช้

อยากจะนอนมีบ้านเป็นของตัวเอง

แค่นี้คือปริญญาวิชาชีพ

2...แต่"ปริญญาวิชาชีวิต" ..

ซึ่งเป็นปริญญาใบที่สองที่พ่อแกบอกไว้

แกบอกว่าผมสอบตกโดยสิ้นเชิง

ผมเป็นดอกเตอร์จากอเมริกาได้ปริญญาวิชาชีพ

แต่ปริญญาวิชาชีวิตสอบตก

เพราะอะไร

เพราะทำงานจนป่วยตาย

ก่อนที่จะเสียชีวิตแกได้สารภาพว่าผมได้เตรียมทุกอย่าง

บ้าน รถ

มอบมันให้กับลูกและภรรยา

แต่ในวันที่ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง

ผมกลับลืมมอบหนึ่งอย่างให้กับลูกและภรรยา

สิ่งนั้นคือสิ่งที่ผมลืมและทำให้ผมล้มเจ็บใหญ่ครั้งนี้

สิ่งที่ว่านี้คือผมลืมมอบตัวเองเป็นของขวัญให้กับลูกและเมีย

เพราะทำงานหนักจนกระทั่งป่วยตาย

...นี่คือปริญญาวิชาชีวิต ...

ธรรมะเราจะต้องมี

ถ้าเราไม่มีธรรมะ

เราจะกลายเป็นหุ่นยนต์เท่านั้นเอง

ที่ทำงานแทบล้มประดาตายแล้วสุขภาพไม่ดี

ดังนั้นเมื่อเราทุกคนทำงานแล้ว

อย่าลืมชั่วโมงสุขภาพของตัวเองในแต่ละวันนะ

แต่ละวันควรจะมี

ให้ดูแลตัวเอง ดูจิต

ดูใจตัวเอง

ว่าเราเอ๊ะมันทุกข์

มันทุกข์มากเกินไปรึเปล่า

แบกเรื่องโน้นเรื่องนี้

เกินไปหรือเปล่า

พยายามลดลงในแต่ละวัน ๆ

เพื่อที่ว่าอะไร

เพื่อที่ว่าเราจะได้ปริญญาสองใบในชีวิต

หนึ่งปริญญาวิชาชีพ

เราทำมาหากินจนประสบความสำเร็จร่ำรวยมั่งคั่ง

มีเงินมีทองใช้มีบ้านอยู่

แต่ต้องไม่ลืมปริญญาใบที่สอง

คือวิชาธรรมะ

สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง

ไม่ทุกข์เกินไปไม่เดือนร้อนเกินไป

ทำอะไรให้พอดี

พอดีอยู่ดีมีสุข

อยากเที่ยวให้ได้เที่ยว

อยากพักให้ได้พัก

อยากทำบุญให้ได้ทำบุญ

ลูกหลานมาหาก็ให้ได้มีเวลากับลูกกับหลานบ้าง

อย่าวิ่งไปจนซ้ายสุด ขวาสุด

และมารู้สึกตัวอีกทำจนล้มเจ็บใหญ่ไม่ดี

เพราะอะไร

เพราะว่าสิ่งสูงค่าทีสุดในชีวิตของเรา

เคยมีคนไปทูลถามพระพุทธเจ้า..

ว่าอะไรคือสิ่งสูงค่าที่สุด

บางคนก็ตอบเงิน

บางคนก็ตอบเพชร

บางคนก็ตอบทอง

บางคนก็ตอบอำนาจ

บางคนก็ตอบราชบัลลังก์

พระพุทธเจ้าบอกไม่ใช่

สิ่งสูงค่าที่สุดในชีวิตของพวกเธอคือสุขภาพและชีวิต..

สุขภาพก็คือการที่เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย

คนที่สุขภาพดีดื่มน้ำธรรมดาก็อร่อยนะ

และก็ชีวิตของเรา

หากบุญกุศลอันใดจะเกิดได้จากการเผยแพร่เรื่องราว ผู้บันทึกก็ขอให้กุศลผลบุญนี้ จงเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขเพื่อปัญญาของเพื่อนผู้ร่วมวัฏฏะทุกท่าน และขอให้ ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร ไม่ว่าจะไปอยู่ภพไหนหนใดก็ขอให้มีปัญญาเท่าทันต้นเหตุแห่งทุกข์เช่นที่ท่าน ได้ถ่ายทอดเรื่องราวเตือนสติผู้อื่นไว้...

...ขอขอบพระคุณในข้อคิดดีดี..

Powered by MakeWebEasy.com