บนขบวนรถไฟคันหนึ่งที่มุ่งสู่มณฑลซีอัน

Last updated: 17 ก.พ. 2560  |  435 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อ่านอีกกี่ครั้งก็ยังไม่เบื่อที่จะอ่านอีก แต่มีความเชื่อส่วนตัวว่า เหตุการณนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทย

เพื่อน ๆ อ่านสักนิดเถอะครับ

_/ \_ บนขบวนรถไฟคันหนึ่งที่มุ่งสู่มณฑลซีอัน

พนักงานเก็บตั๋วสาวสวยนางหนึ่งกำลังยืนจ้องชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ซึ่งแต่งตัวปอน ๆ เหมือนกรรมกรชนชั้นแรงงาน. “ตรวจตั๋ว". เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เชิดสูง. เขารีบคลำหาตั๋วรถที่กระเป๋าเสื้อและกระเป๋ากางเกง และเมื่อเจอตั๋วก็กำไว้ในมือ เธอมองเขา ด้วยสีหน้าประหลาดใจและก็ยิ้มเยาะ. “นี่มันตั๋วเด็กนี่นา" ชายวัยกลางคนหน้าแดงด้วยความอาย พูดออกมาด้วยเสียงสลดว่า “ตั๋วเด็กกับตั๋วคนพิการไม่ใช่ราคาเดียวกันหรือครับ?" เธอมองเขาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “คุณเป็นคนพิการเหรอ" น้ำเสียงยังคงเชิดสูง “เอาบัตรประจำตัวคนพิการออกมาให้ฉันดูหน่อยสิ" ประโยคนี้ของเธอ ทำให้เขาร้อนรนขึ้นมาทันที. “เอ่อ ผม เอ่อ ไม่มีบัตรคนพิการครับ ตอนที่ซื้อตั๋ว คุณเจ้าหน้าที่บอกผมว่าเมื่อไม่มีบัตรคนพิการก็จะออกตั๋วเด็กให้ครับ".

เธอหัวเราะหึหึในลำคอ “เมื่อไม่มีบัตรประจำตัวผู้พิการ แล้วเอาอะไรมายืนยันว่าคุณเป็นคนพิการล่ะ?” เขาไม่ได้ตอบว่าอะไร ได้แต่ถลกขากางเกงให้เธอเห็นถึงขาของเขาที่ขาดไปข้างหนึ่ง. “ฉันต้องการบัตรยืนยัน ว่าคุณเป็นคนพิการจริง ๆ". เธอพูดออกมาทั้ง ๆ ที่ก็เห็นว่าเขาขาขาด. เขามองเธออย่างวิงวอนขอความเห็นใจ. “ทะเบียนบ้านผมไม่ได้อยู่ที่นี่ ทางการก็เลยไม่ออกบัตรให้กับผม ผมก็ทำงานที่โรงงานเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง พอเกิดเรื่องเจ้านายก็หนีหายหน้าไปไม่ยอมรับผิดชอบ ผมไม่มีเงินไปรักษาที่โรงพยาบาลก็เลยไม่มีหลักฐานยืนยันครับ”

เมื่อเจ้าพนักงานรักษารถซึ่งอยู่ไม่ไกลนักได้ยินเข้าก็เข้ามาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ชายวัยกลางคนได้บอกแก่เจ้าหน้าที่ชายคนนั้นว่า ตนเองคือคนพิการและได้ซื้อตั๋วเด็กที่มีราคาเดียวกันกับตั๋วคนพิการ

“บัตรประจำตัวผู้พิการของคุณล่ะ?”

“ผมไม่มีบัตรคนพิการ”

จากนั้นก็ถลกกางเกงให้เจ้าหน้าที่ดู

เจ้าหน้าที่รักษารถไม่แม้แต่จะชายตาแลดู กลับกระแทกเสียงใส่ว่า

“เราต้องการหลักฐานยืนยันเท่านั้น หากคุณมีบัตรคนพิการมายืนยันคุณก็ไม่ต้องตีตั๋วเพิ่ม หากไม่มีคุณก็ต้องทำตามกฎ"

ชายวัยกลางคนลุกลี้ลุกลน ควานหาเงินในกระเป๋ากางเกงและกระสอบสัมภาระ แต่เขาไม่มีเงินพอที่จะซื้อตั๋วเพิ่มได้ เขาพูดกับเจ้าหน้าที่ชายด้วยเสียงสะอื้น

“ตั้งแต่ผมถูกเครื่องจักรตัดขา ผมก็ไม่ได้ทำงานอีกเลย ผมไม่มีเงิน แม้แต่เงินซื้อตั๋วกลับบ้านผมยังไม่มีเลย ส่วนตั๋วเด็กใบนี้เพื่อน ๆ ก็รวมเงินกันซื้อให้ผม ขอความกรุณาถือว่าทำทานกับคนพิการเถอะครับ"

“ไม่ได้หรอก กฎก็ต้องเป็นกฎ"

เจ้าหน้าที่ชายยืนยันคำเดิม

พนักงานตรวจตั๋วรีบพูดขึ้นแทรกว่า

“ให้เขาไปนั่งที่ห้องสัมภาระไหมคะ ถือว่าทำทาน คิดเสียว่าเขาเป็นพนักงานบนรถคนหนึ่ง”

พนักงานรักษารถ"ได้ฟังดังนั้น ก็พยักหน้าบอกว่าได้. ชายชราคนหนึ่งที่นั่งตรงข้ามกับชายพิการนิ่งทนดูอยู่เป็นเวลานานก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เขายืนขึ้นและก็จ้องมองไปที่เจ้าหน้าที่ชายด้วยสายตารังเกียจ

“คุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า?” ชายชราถามออกไป

“มันเกี่ยวอะไรกับผมเป็นผู้ชายหรือไม่เป็นผู้ชาย"เขาถามออกไปแบบไม่เข้าใจ

“ก็บอกผมมาสิ ว่าคุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า” ชายชราเริ่มเสียงดัง

“ผมก็เป็นผู้ชายนะสิถามได้” เขาตอบเสียงดังออกไปเหมือนกัน

“แล้วคุณเอาอะไรมายืนยันว่าคุณเป็นผู้ชาย? ผมขอดูหลักฐานที่ยืนยันว่าคุณเป็นผู้ชายให้ทุกคนบนรถนี้ดูหน่อยได้ไหม”

เสียงหัวเราะของผู้โดยสารก็ดังขึ้นมา

เจ้าหน้าที่มองชายชราอย่างงง ๆ แล้วพูดว่า

“คุณก็รู้ ผมเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ผมจะเป็นผู้ชายปลอมได้ยังไง?”

ชายชราส่ายหน้าไปมา

“ผมก็เหมือนพวกคุณทั้งสองเมื่อสักครู่นี้ ผมต้องการบัตรยืนยันว่าคุณเป็นผู้ชาย มีบัตรยืนยันถึงเป็นผู้ชายแท้ ไม่มีบัตรยืนยันคุณก็ไม่ใช่ผู้ชายจริง"

เจ้าหน้าที่ชายได้แต่ยืนมองชายชรา ไม่รู้จะพูดอะไร

พนักงานสาวเห็นหัวหน้าเริ่มจนมุม จึงเข้ามาช่วยเบี่ยงประเด็น

“ฉันไม่ใช่ผู้ชาย ลุงมีอะไรพูดกับฉันก็ได้”

ชายชราชี้หน้าหญิงสาวแล้วพูดว่า

“เธอนี่ไม่น่าจะใช่คนนะ”

เธอได้ฟังก็ปรี๊ดแตก พูดออกมาด้วยเสียงอันแหลมเล็กว่า

“หน๊อย! ตาแก่ พูดให้ดี ๆ นะ ฉันไม่ใช่คนแล้วฉันจะเป็นอะไรห๊า? ”

ชายชรามองเธอด้วยสายตาแน่นิ่ง

“เธอเป็นคนเหรอ? ถ้างั้นขอดูบัตรยืนยันหน่อยได้ไหม”

คนทั้งขบวนหัวเราะพร้อมกันขึ้นมาอีกครั้ง

มีเพียงคนเดียวที่ตอนนี้ไม่ได้หัวเราะไปกับเขาด้วย เขาคนนั้นก็คือชายขาพิการ เขาได้แต่นิ่งมองการสนทนาของชายชราและเจ้าหน้าที่ จู่ ๆ น้ำตาก็ไหลอาบแก้ม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขารู้สึกอดสูใจ หรือซาบซึ้ง หรือเคียดแค้นชิงชัง

……………………………

||::น้ำเอ๋ยน้ำใจ อะลุ่มอล่วยกันได้ก็จงมอบให้กันไป. อย่าเอากฎหมายมาบดบังมโนธรรม หากเป็นญาติของเรา เราจะรู้สึกอย่างไร หัวโขนที่คุณสวมใส่อยู่นี้ จะอยู่กับคุณได้นานสักแค่ไหน?

จงเอาใจเขามาใส่ใจเรา เคารพเขา เขาย่อมเคารพตอบ :!:=

Powered by MakeWebEasy.com