ข้อแนะนำสำหรับคนมีลูกเล็ก

Last updated: 20 ต.ค. 2559  |  389 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ข้อแนะนำสำหรับคนมีลูกเล็ก ข้อดี(ที่คุณอาจคิดไม่ถึง)ของการเลี้ยงลูกสองภาษา
https://anontawong.com/2016/10/02/bilingual/

วันนี้มีเนื้อหาน่าสนใจจากเว็บ Big Think มาฝากกันอีกแล้วครับ

นักวิจัยจากมหาวิทยาวอชิงตันได้ทำการทดลองที่ให้ข้อสรุปว่า เด็กที่โตมาในบ้านที่พูดสองภาษาจะได้พัฒนาทักษะสำคัญอย่างการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาก่อนที่เด็กเหล่านี้จะพูดได้เสียอีก!

นักวิจัยทำการทดลองนี้กับเด็กอายุ 11 เดือนจำนวน 16 คน โดยครึ่งหนึ่งมีพ่อแม่ที่พูดภาษาอ้งกฤษทั้งบ้าน ส่วนอีกครึ่งหนึ่งมีพ่อแม่ที่พูดทั้งภาษาอังกฤษและภาษาสเปน

ในการทดลอง เด็กแต่ละคนจะได้ฟังคำพูดที่มาจากทั้งสองภาษา พร้อมกับถูกวัดคลื่นสมองด้วยเทคโนโลยี Magnetoencephalography (MEG) ซึ่งจะระบุได้เลยว่าส่วนใดของสมองบ้างที่แอ๊คทีฟเวลาฟังคำแต่ละคำ

จากการทดลองเห็นได้ชัดว่า เด็กจากบ้านที่พูดสองภาษานั้นจะมีความเคลื่อนไหวในสมองส่วนหน้าสุด (prefrontal cortex) ค่อนข้างสูง ซึ่งสมองส่วนนี้จะควบคุมกลไกเกี่ยวกับการบริหาร (executive function) อย่างการตัดสินใจ (decision-making) และการแก้ปัญหา (problem-solving) จึงถือได้ว่าเด็กกลุ่มนี้ได้ออกกำลังสมองส่วน executiveตั้งแต่ยังแบเบาะเลยทีเดียว

มีงานวิจัยอีกหลายฉบับที่พบว่า ผู้ใหญ่ที่พูดได้สองภาษานั้นจะสวมบทบาทของนักบริหารได้ดีกว่าผู้ใหญ่ที่พูดได้ภาษาเดียว โดยผู้ใหญ่ที่พูดได้สองภาษาจะสามารถสลับการทำงาน (switch task) ระลึกข้อมูลเก่าๆ (recall memories) และวางแผนหรือแก้ปัญหาได้ดีกว่าผู้ใหญ่ที่พูดได้ภาษาเดียว ส่วนเด็กที่พูดได้สองภาษาก็มีทักษะด้านนี้เหนือกว่าเด็กที่พูดได้ภาษาเดียวเช่นกัน

ที่สำคัญ เจ้าตัว executive brain function ยังเป็นกุญแจสำคัญต่อการเรียนหน้งสือให้สำเร็จและการมีความสุขกับชีวิต แถมการเรียนรู้ภาษาที่สองยังช่วยยืดสมองให้พ้นจากโรคร้ายที่มากับความชราอย่างโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์อีกด้วย

การเรียนภาษาที่สองจึงไม่มีผลเสียอะไรเลย และยิ่งเริ่มได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น

ข่าวดีก็คือคุณสามารถเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กสองภาษาได้ แม้ว่าคุณพูดได้แค่ภาษาเดียวก็ตาม โดยสมาคมภาษา (Linguistic Society) ให้คำแนะนำไว้สามข้อได้แก่

1. ถ้าที่บ้านสามารถพูดสองภาษาได้อยู่แล้ว จงให้พ่อพูดหนึ่งภาษา และให้แม่พูดอีกหนึ่งภาษา โดยต้องเคลียร์กับลูกให้ชัดเจนก่อนว่าคนไหนจะพูดภาษาอะไร เด็กจะได้รับมือและพูดจาโต้ตอบได้โดยไม่สับสน

2. แต่ถ้าภาษาอังกฤษคุณไม่กระดิกก็ไม่ต้องถอดใจนะครับ เพราะบ้านเรามีภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ สอดแทรกเข้ามาในชีวิตประจำวันตลอดอยู่แล้ว สิ่งที่เราควรทำคือชี้ให้ลูกเห็นว่า คำๆ นี้มาจากภาษาอื่นนะ หรือไม่ก็นั่งดูรายการสองภาษาต่างประเทศด้วยกันทั้งครอบครัว ถ้าเราเปิดโอกาสให้เด็กได้ซึมซับภาษาที่สองอย่างสม่ำเสมอ เด็กก็จะได้ประโยชน์อย่างแน่นอน

3. ใช้บริการเว็บแลกเปลี่ยนทางภาษา (Language Exchange Community) ซึ่งจะเป็นที่ที่เราและลูกจะมีโอกาสได้คุยกับเจ้าของภาษาจริง ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการที่ลัดสั้นและทรงประสิทธิภาพที่สุด

จริงๆ ผมเองก็พูดกับลูกสาวเป็นภาษาอังกฤษมาซักพักแล้ว (แถมตอนนี้ปรายฝนอายุ 11 เดือนเหมือนในการทดลองเป๊ะเลย) แต่ช่วงเดือนสองเดือนหลังหย่อนยานไปหน่อยเพราะเห็นว่าพูดไปก็ไม่เห็นเขาจะมีปฏิกิริยาตอบรับ และถึงยังไงพูดภาษาไทยก็ได้อรรถรสกว่า

แต่พอได้มารู้ข้อดีของการให้ลูกได้ฟังภาษาที่สองเพิ่มเติมอย่างนี้ ผมคงต้องเข้มงวดกับตัวเองและพูดอังกฤษกับลูกให้บ่อยขึ้นแล้วครับ

-----

ขอบคุณข้อมูลจาก Big Think: The sooner you expose a baby to a second language, the smarter they’ll be http://bigthink.com/…/the-sooner-you-expose-a-baby-to-a-sec…

ติดตามตอนใหม่ได้ทุกวันที่ facebook.com/anontawongblog

Powered by MakeWebEasy.com