Last updated: 13 ก.พ. 2561 | 3674 จำนวนผู้เข้าชม |
วันพฤหัสบดีที่ 21 ธ.ค. 60 ท่านพระครูปลัดสัมพิพัฒนศีลาจารย์
(ครรชิต คุณวโร) เมตตาแสดงธรรม โปรดกลุ่มธรรมะยามเย็นว่าด้วยเรื่อง ...จิต แบ่งตามภูมิหรือระดับจิต
1.กามาวจรจิต คือ จิตที่ยังท่องเที่ยวในกามภูมิ คือ ยังมีกิเลสกาม เช่นเห็นเสื้อสวยแล้วอยากได้
เสื้อ = วัตถุกาม, ความอยากได้ = กิเลสกาม ในภูมินี้มีขันธ์ 5 และอายตนะ 6
1.1.อบายภูมิ ได้แก่ นิรยะ (นรก), เปรต, อสุรกาย และเดรัจฉาน
*จิตขณะใกล้ตาย ที่นำไปเกิดในภูมิต่างๆ ได้แก่
-ถ้าจิตมีโลภะ เช่น ห่วงบุคคล ทรัพย์สมบัติ หรือชอบใจเพลิดเพลินในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะนำไปเกิด เป็นเปรต สัตว์เดรัจฉาน หรืออสุรกาย
-ถ้าจิตมีโทสะ เช่น ภาพในอดีตที่เคยฆ่าสัตว์มาปรากฏ หรือมีความเดือดเนื้อร้อนใจ จะนำไปเกิดในนรก
- ถ้าจิตมีโมหะ เช่น เบื่อหน่าย ขี้เกียจ จิตไม่มีกำลัง จะนำไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
1.2. กามสุคติภูมิ ได้แก่ มนุษยภูมิ และเทวตาภูมิ (สวรรค์ 6 ชั้น)
*จิตของมนุษย์ คือ มีศีล 5 ไม่เบียดเบียน มีเมตตา ซื่อสัตย์
*จิตของเทวดา คือ มีศีล 5 เป็นพื้นฐาน มีหิริ โอตัปปะ ยินดีในการทำทาน
ลักษณะจิตของการทำทานที่จะนำไปเกิดในสวรรค์ชั้นต่างๆ ได้แก่
ชั้นที่ 1 (จาตุมหาราชิกา) : จิตหวังในผลของทาน เช่น ทำทานแล้วขอให้ไปเกิดในสวรรค์
ชั้นที่ 2 (ดาวดึงส์) : ทำทานเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี จิตบริสุทธิ์ ไม่หวังผล
ชั้นที่ 3 (ยามา) : ทำทานเพราะต้องการรักษาประเพณี จิตนึกถึงสังคมส่วนรวม
ชั้นที่ 4 (ดุสิต) : ทำทานเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ จิตมีเมตตาเสียสละ
ชั้นที่ 5 (นิมมานรตี) : ทำทานเพราะต้องการขัดเกลากิเลส ฝึกฝนตนเอง
ชั้นที่ 6 (ปรนิมมิตวัสสวัสตี) : ทำทานแล้วจิตปลื้มปีติอย่างมาก
2.รูปาวจรจิต คือ จิตในรูปาวจรภูมิ (จิตในขณะเข้ารูปฌาน) : จิตของรูปพรหม ภูมินี้มี ขันธ์ 5 แต่มีอายตนะแค่ ตา หู และใจ ยกเว้น “อสัญญีสัตว์ หรือพรหมลูกฟัก” มีแต่รูป ไม่มีนาม ภูมินี้มีขันธ์ 1 ขันธ์
3.อรูปาวจรจิต คือ จิตในอรูปภูมิ (จิตในขณะเข้าอรูปฌาน จิตสงบมาก มีแต่นาม ไม่มีรูป) : จิตของอรูปพรหม
4.โลกุตตรจิต คือ จิตของพระอริยบุคคล ได้แก่ มรรค 4 (เหตุ) และผล 4 เป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม
มรรค ผล จะมีผลกำจัดกิเลส แต่ไม่ได้ให้ผลเป็นลาภสักการะ ดังเรื่องของท่านพระโลสกติสสเถระ เพราะกรรมในอดีตชาติ ที่เคยทำอันตรายต่อลาภของผู้อื่น ทำให้ท่านเกิดมาเป็นผู้มีลาภสักการะน้อย ทุกภพชาติ ตราบจนถึงนิพพาน ส่วนกรรมที่ท่านหมั่นเจริญวิปัสสนา ทำให้บรรลุเป็นพระอรหันต์
การทำกรรมจะประทับในจิตและจะส่งผลดังนี้
*การทำทาน รักษาศีล มีเมตตา : กรรมเหล่านี้จะส่งผลตามไปทุกๆชาติ จนกว่ากรรมจะส่งผลหรือถึงพระนิพพาน
*การเจริญรูปฌาน อรูปฌาน : กรรมเหล่านี้จะส่งผลในชาติหน้าคือนำไปเกิดเป็นรูปพรหมหรืออรูปพรหม แต่ถ้าก่อนตายเข้าฌานไม่ได้ กรรมนี้ก็ถือเป็นอโหสิกรรม คือหมดผล
อย่างไรก็ตามขณะที่อยู่ในรูปาวจรภูมิและ. อรูปาวจรภูมิ กรรมอื่นๆก็ส่งผลไม่ได้ (แต่ยังรอส่งผลอยู่)
**ดังนั้นกรรมดีแม้เพียงเล็กน้อยต้องหมั่นทำ กรรมไม่ดีแม้เพียงเล็กน้อยอย่าทำ**
การทำทาน รักษาศีล จิตมีเมตตา ต้องทำให้เต็มที่ เพราะเป็นฐานในการเจริญวิปัสสนา และจะส่งผลตามไปทุกชาติจนกว่าจะถึงพระนิพพาน
**ในแต่ละวัน สังเกตว่าจิตเป็นอย่างไรเป็นส่วนใหญ่ ก็มีแนวโน้มว่าขณะใกล้ตาย จิตก็มักจะเป็นอย่างนั้น ซึ่งส่งผลนำไปเกิดในภพภูมิต่างๆ ดังนั้นอย่าประมาท ต้องหมั่นฝึกฝน พัฒนาจิตในทุกๆวัน**
เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่สามารถสร้างเหตุปัจจัยที่จะนำไปเกิดยังภพภูมิต่างๆได้
...หากผิดพลาดประการใด กราบขอขมาต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระอาจารย์ และขออภัยทุกท่าน
13 มี.ค. 2561
13 มี.ค. 2561
13 มี.ค. 2561
13 มี.ค. 2561