Last updated: 30 ต.ค. 2560 | 5258 จำนวนผู้เข้าชม |
คำสอนของศาสนาคริสต์-พุทธที่เหมือนกัน
คำสอนของศาสนาคริสต์มีความเหมือนศาสนาพุทธนั่นคือสัจธรรมของมนุษย์.......
ฉะนั้นในทุกสิ่งจงทำต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านอยากให้เขาทำต่อท่าน.(มธ.7:12)
คนเรามีลักษณะนิสัยต่างกัน บางคนไม่ชอบสังคมชอบอยู่อย่างสันโดษ แต่บางคนชอบสังคม ชอบพบปะพูดคุย บางคนมีพฤติกรรมเชิงรุก ชอบคิด ชอบทำสิ่งใหม่ๆขณะที่บางคนเฉยๆอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ...ในทางโลกผู้ที่จะประสบความสำเร็จสูงจะต้องมีลักษณะนิสัย เชิงรุก เขาไม่รอโชคลาภ เขาไม่รอโอกาส เขาลงมือสร้างโชค สร้างโอกาสให้กับตน เขาไม่นั่งรอให้สิ่งดีๆเดินมาหาเขา แต่เขาเดินไปหาสิ่งดีๆที่อยู่ตรงหน้าเขา เขาไม่มีคำว่า...ถ้าผม/ฉันมีอย่างนั้น มีอย่างนี้ ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คงจะได้ทำ นี่เป็นลักษณะนิสัยเชิงรับ เขาไม่ทำให้มันเกิดขึ้น เขานั่งรอโอกาส โอกาสดีๆมาไม่ถึงเขา เพราะถูกผู้อื่นฉวยไปหมดแล้ว ที่กล่าวมาเป็นเรื่องทางโลก แต่เรื่องทางธรรมก็ไม่อาจหนีหลักการนี้ได้ เราแต่ละคนอยากให้ใครต่อใครรักเรา เป็นเพื่อนกับเรา ฟังและรับรู้ปัญหาของเราและช่วยเราในยามคับขัน มีคริสตชนบางคนบ่นในทำนองว่าเขาไม่มีเพื่อนทั้งๆที่มาร่วม คริสตจักรนานแล้ว เขาอยากมีเพื่อนคู่หูสักคนที่จะคุยกันได้ ความต้องการดังกล่าวเป็นความต้องการธรรมชาติ เราไม่อยากอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่การที่จะมีเพื่อนแต่ไม่ไปสร้างเพื่อนเพียงนั่งคอยให้คนอื่นเดินเข้ามาหา มันยากที่จะได้เพื่อน พระเยซูคริสต์สอนเราว่า ถ้าอยากให้ผู้อื่นทำอะไรต่อเรา ก็จงไปทำสิ่งนั้นแก่ผู้อื่นก่อน เราต้องทำการหว่านก่อนแล้วการเก็บเกี่ยวจะตามมา ถ้าเราต้องการให้คนรักเรา เคารพเรา ฟังเรา อยากเป็นเพื่อนกับเรา จงทำสิ่งที่เราต้องการแก่ผู้อื่นก่อน อย่านั่งรอ นอนรอ แต่จงลุกขึ้นลงมือ ทำสิ่งที่เราอยากให้ผู้อื่นทำแก่เรา..จงให้แล้วท่านจะรับด้วย เราจะได้รับมากกว่าที่ให้ไปเสมอ
เขียนโดย..คุณวีรชัย โกแวร์
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560
13 มี.ค. 2561
13 มี.ค. 2561
13 มี.ค. 2561
13 มี.ค. 2561