เรื่องแปล.. จาก coco01net ชื่อเรื่อง 最受国际尊重的企业家 (บุคคลที่ได้รับการยกย่องจากนานาชาติ)

Last updated: 24 ก.ค. 2560  |  513 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เรื่องแปล.. จาก coco01net

ชื่อเรื่อง 最受国际尊重的企业家 (บุคคลที่ได้รับการยกย่องจากนานาชาติ)


เขาทำกำไรมหาศาลจากต่างประเทศ, 6.6ล้านๆ, จ่ายภาษีให้ประเทศจีน 1.6 แสนล้าน

แต่ใช้รถส่วนตัว ราคาไม่เกินคันละ 5 แสนบาท แถมเป็นรถมือ 2


"มีนักธุรกิจใหญ่ชาวจีนคนหนึ่ง" มักกล่าวกับพนักงานของเขาว่า "

เมื่อผมได้ชัยชนะมา1ครั้ง ผมก็จะทำให้พ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหายของผม ได้กินข้าวเพิ่มอีก 1ชาม และยังจะบริจาคเงินส่วนหนึ่งให้เป็นความหวังของลูกหลานแรงงาน สามารถใช้เป็นทุนการศึกษาให้เด็กๆ ได้เรียนหนังสือให้มากขึ้น

เถ้าแก่คนนี้ชื่อ " 任正非" (หยิ่มเจี๊ยฮุย)

เขาเป็นนักธุรกิจระดับ "หลาย..ล้านๆ"เป็นคนจีนที่นานาชาติให้ความเคารพยกย่องว่า เป็นบุคคลแห่งปี และนักธุระกิจที่เป็นยิ่งกว่านักธุระกิจทั่วไป



ปีนี้...วันที่16/4/2017 ผู้ก่อตั้งบริษัท "华为"

หั่วอุ๊ย( หัวเหว่ย) ชื่อ "หยิ่มเจี๊ยฮุย" อายุ72ปี ได้เข้าแถวรอขึ้นรถแท๊กซี่กลางดึกคนเดียว ที่สนามบินหงเฉียว ในเมืองเซี่ยงไฮ้ (มีคนแอบถ่ายรูปใว้ได้)

เมื่อภาพได้ถูกเผยแพร่ออกไป มีแฟนๆ ในโซเชี่ยล ได้แสดงการคารวะอย่างจริงใจกับท่าน ในภาพถ่ายนั้น เห็นท่านกำลังลากกระเป๋าเดินทาง และอีกมือหนึ่งกำลังใช้โทรศัพพ์ ในขณะที่ต้องเข้าแถวรอรถแท๊กซี่ด้วยตัวเองเหมือนคนทั่วไป...

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่มีคนถ่ายภาพท่านใว้ ปี 2012 ก็เคยมีคนถ่ายรูปท่าน กำลังขึ้นรถขนส่งผู้โดยสารขึ้นเครื่องแบบจังๆ ท่านใส่เสื้อเก่าๆ หิ้วกระเป๋าที่เก่าจนเป็นสีเหลือง มีความน้อบน้อมถ่อมตน และมารยาทที่งดงาม ทั้งๆ ที่เป็นเจ้าของนักธุรกิจระดับต้นๆ ของโลก ที่ไม่ต้องใช้คนขับรถ ไม่ยอมใช้อภิสิทธิเกินคนทั่วไป

ทั้งๆ ที่เป็นนักธุรกิจใหญ่ถึงระดับนี้ แต่ทำไมไม่ใช้เส้นทางเดินของแขกผู้มีเกียรติ และไม่ต้องการใช้รถ"รีมูซีน" แต่ยังอุตส่าห์เข้าแถวรอรถแท๊กซี่ หากแต่เบื้องหลังความเป็นจริง

ทุกคนรู้ว่า เถ้าแก่ แห่งอาณาจักร "หั่วอุ้ย(หัวเหว่ย) มีอุปนิสัยเช่นนายทหาร" เขามักจะมีคำพูดติดปากอยู่ 3 คำ คือ

  1. ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
  2. การแข่งขันคือต้นทุนอย่างหนึ่ง
  3. ต้องช่วยเหลือสนับสนุนคนที่แข่งขัน(พนักงาน)อย่างยากลำบากตลอดเวลา

เขายังห้ามลูกน้องบริการให้ความสดวกต่างๆ เช่น เคยมีคนขับรถไปรับที่สนามบิน กลับถูกท่านตำหนิอย่างรุนแรง ด้วยคำพูดว่า " "ลูกค้า" จึงเป็น ทั้งเสื้อผ้า, อาหาร, หรือบุพการีของเธอที่แท้จริง  เธอควรจะใช้แรงกาย และแรงใจ เอาใจใส่ให้กับลูกค้าทั้งหมด!" หยิ่มเจี๊ยฮุย" จนทุกวันนี้ ยังไม่เคยมีรถประจำตำแหน่ง เพราะ เขาไม่ต้องการให้ "หั่วอุ้ย"(หัวเหว่ย) กลายเป็นกองทัพรถยนต์(นั่นแสดงว่าบริษัทนี้ ใหญ่โตแค่ไหน)...

ในโลกของ"โซเชี่ยล" มีคำพูดคำหนึ่งที่กล่าวขานกันว่า หากประเทศจีน ไม่มี"อลีบาบา" (ของนาย แจ๊กหม่า) ที่ค้าขายทางโซเชี่ยล จนเป็นระดับหนึ่งของโลก หรือ ประเทศจีน ไม่มี"หัวเหว่ย" หรือไม่มีบริษัทอื่นๆ หากเป็นเช่นนั้น บริษัท"หัวเหว่ย"จะโดดเด่นยิ่งใหญ่ได้แค่ไหน เพราะไม่มีที่ให้เปรียบเทียบ มีเรื่องที่น่าขำมาก คือ คนทั่วไปยังคิดว่า "หัวเหว่ย" ผลิตแค่โทรศัพพ์มือถือ แต่ไม่รู้ว่า"หัวเหว่ย"คือบริษัทที่ผลิต" ติดตั้ง" เซต"สัญญาณโทรศัพพ์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเครือข่ายบริการอยู่ใน 150 ประเทศ มีประชากรโลกใช้บริการ "หัวเหว่ย"อยู่ร่วม 2,000 ล้านคน

ในเทคโนโลยี่ระบบ 4 g. ของยุโรป "หัวเหว่ย" เป็นรายแรกๆ ที่เข้าไปพัฒนาให้ ปัจจุบัน "หัวเหว่ย" มีสัดส่วนการลงทุนอยู่ในยุโรป ถึง 50% ตั้งแต่ปี 2,000 เป็นต้นมา

ภายใน 15 ปี "หัวเหว่ย" ทำเงินจากทั่วโลก เข้าบริษัทได้ถึง 2.3 ล้านๆ หยวน ในจำนวนนี้ เป็นเงินที่ได้จากต่างชาติถึง 70%

ปี2016 หัวเหว่ยได้รับรางวัลเกียรติยศชั้นสูงสุดจากประเทศจีน ในสาขา สินค้าคุณภาพ จากกระทรวงเทคโนโลยี่

ตั้งแต่ปี2013เป็นต้นมา "หัวเหว่ย" ได้รับรางวัลเกียรติยศมาแล้ว 700 รางวัล

ปัจจุบัน มีสินค้าแบรนเนมในท้องตลาดไม่ต่ำกว่า 20 ยี่ห้อ ที่ประสบกับภาวะถดถอยทางการตลาด ไม่เว้นแม้แต่"แอปเปิล" ..." แต่" ในขณะเดียวกัน "หัวเหว่ย" กลับมีผลประกอบการเป็นบวก โดยใช้สโลแกน คำว่า "ใช้คุณภาพของผลิตภัณฑ์" รักษาชื่อเสียงของบริษัทเทียบเท่าชีวิต" รางวัลเกียรติยศที่ได้รับ จึงเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพที่ไม่มีข้อสงสัยใดๆ เป็นบทพิสูจน์ในความสำเร็จของบริษัท " หัวเหว่ย"

ต้องใช้ความสงบนิ่ง ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จึงจะมีอานาคตที่ยั่งยืนถาวร ดังเช่น "หยิ่มเจี๊ยฮุย" กล่าวใว้ว่า""ต้องไม่ทำให้ผู้บริโภคผิดหวัง"" และกระจายหุ้นของบริษัท 98.6% ให้กับพนักงานของบริษัท ในขณะเดียวกัน "หัวเหว่ย" ก็ยังไม่ให้บริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เป็นบริษัทที่ไม่ยุ่งกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพราะ"หยิ่มเจี๊ยฮุย"เห็นว่า ..ในโลกของการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ การทำกำไรมหาศาลเกิดจากการปั่นตัวเลขเท่านั้น ความจริง มนุษย์ในโลกนี้ ต้องเริ่มตั้งหลักจากกระดุมเม็ดแรกที่ลำบากก่อน จึงจะค่อยๆ หาเงินได้จากงานที่ทำกำไรตามมา ซึ่งการปั่นเงินจากตลาดหุ้น มันไม่สมเหตุสมผลกับการพัฒนาใดๆ เลย ฉะนั้นเขาจึงไม่ยอมเอา "หัวเหว่ย" เข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่กลับนำหุ้น 98.6% กระจายให้พนักงานทุกคน ทำให้ผู้ก่อตั้งอย่าง "หยิ่มเจี๊ยฮุย" มีหุ้นในชื่อตัวเองแค่ 1.4% เท่านั้น..

ความคิดที่ไม่เหมือนใครนี้ ทำให้พนักงาน"หัวเหว่ย" ทุกคน มีส่วนร่วมกับบริษัท เงินทุกๆ หยวนที่เข้าบริษัทเปรียบเหมือนทุกคนได้ส่วนแบ่งด้วย ด้วยความคิดที่ใจกว้างนี้ ทำให้เขามีเกาะคุ้มกัน ข้างหน้า และแรงหนุนจากข้างหลัง

" หยิ่มเจี๊ยฮุย" เป็นถึงมหาเศรษฐี แต่กลับทำตัวเป็นเช่นคนธรรมดาสามัญ, ในวัย72 ยังเข้าแถวรอขึ้นรถแท๊กซี่ ท่านทำตัวเหมือนเช่นคนงานในสายการผลิตคนหนึ่ง ไม่เข้าสังคมที่ไร้สาระต่อธุระกิจ ไม่เข้าหานักการเมือง และปฎิเสธการเข้าร่วมกิจกรรมกับข้าราชการทุกระดับ ในขณะที่มีทรัพย์สินส่วนตัวมาก ระดับหมื่นล้าน (คูณด้วย5บาท) ขับรถมือ2 ราคาไม่เกิน 1 แสนหยวน (ประมาณ 5 แสนบาท) ต่อมาความเก่าของรถ ทำให้สต๊าดไม่ติด จึงได้เปลี่ยนไปซื้อรถ BMW 730 i ราคาประมาณ 1 ล้านหยวน (ประมาณ5ล้านบาท) นั่นเป็นทรัพย์สินที่สิ้นเปลืองที่สุดของท่านแล้ว ..

ท่านเสียภาษีให้รัฐบาลจีนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ท่านนำเงินตราต่างประเทศเข้าจีน มากมายมหาศาล ท่านกระจายหุ้นให้พนักงานทุกๆคน ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในบริษัท ทำให้รัฐบาลจีนยกย่องให้เป็น , นักธุระกิจดีเด่นแห่งชาติ

ท่านชื่อ มร. 任正非 หยิ่มเจี๊ยฮุย (เยิ่นเจิ้งเฟย)..ผู้ก่อตั้ง บริษัท 华为 หั่วอุ้ย (หัวเหว่ย)..

เป็นบริษัทที่ได้รับรางวัลล่าสุดคือ ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุด จากกระทรวงเทคโนโลยี่ของจีน สินค้าของหัวเหว่ย กำลังจะครองโลกในเร็วๆ นี้ ด้วยคุณภาพ และปริมาณครับ



(แปลและเรียบเรียงโดย.. เจงเอี่ยม แซ่อึ้ง 黄振炎)

เมื่อวันที่ 14/7/2017

Powered by MakeWebEasy.com