Last updated: 1 มี.ค. 2560 | 737 จำนวนผู้เข้าชม |
คำสอนหลวงปู่ทุย ฉันทกาโร
ท่านได้ให้โอวาทธรรมง่ายๆ แต่แสดงให้เห็นถึงวัตรปฏิบัติที่งดงาม ดังนี้.- ครับ
" โยมไม่ต้องมาบริจาคเงินให้วัด..โยมเอาเงินไปดูแลพ่อแม่ได้บุญมากกว่าเอามาให้วัด เรื่องเงินน่ะไม่สำคัญ ฆราวาสมีศีล 5 เท่านั้น พอ"
"โยมอย่าเอาไฟฟ้าเข้าวัด เพราะจะทำให้พระต้องมีค่าใช้จ่าย พระไม่มีรายได้อยู่โดยไม่มีไฟฟ้าดีกว่า"
"โยมมาที่วัดขออย่าอึกทึกเสียงดัง มาอยู่วัดให้ทำสมาธิฝึกจิต ได้บุญกว่ามานั่งกราบพระน่ะ "
ข้อวัตร / ระเบียบ / การไปการมาวัดนี้ ผมขอเล่าปฏิปทา-ข้อวัตรระเบียบต่างๆ สู่กันฟังเผื่อท่านใดไปกราบท่านอาจเตือนสติกันและอาจจะเป็นประโยชน์บ้างได้ไม่มากก็น้อย (เครดิตข้อมูลจากเพจบูชา หลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม กัลยาณธัมโม)
■ สำหรับวัดป่าดานวิเวกไม่มีสิ่งก่อสร้างใดๆ นอกจากศาลาใหญ่หลังหนึ่งและกุฏิที่อยู่ห่างๆ กันไปเท่าที่จำเป็น อาสนะของพระสูงกว่าพื้นดินเพียงคืบเดียว หลวงปู่ทุยท่านมีปฏิปตทาว่าจะไม่สร้างวัตถุถาวรใดๆ เกินความจำเป็น มุ่งปลูกป่าอย่างเดียว
■ พระรูปไหนอ้วนท่านจะเรียกไปคุยสอบถามว่าอ้วนยังไง หรืออาจจะเป็นเพราะว่าขี้เกียจภาวนา ไม่เดินจงกรม จึงอ้วน พระเณรในวัดจะถือบิณฑบาตทุกวัน ไม่มีเว้น นอกจากเจ็บป่วยจริงๆ ขนาดท่านอดีตนายกฯ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มาบวช เป็นโรคเก๊าท์ด้วยก็ยังเดินเท้าเปล่าบิณฑบาตทุกวัน ไม่ว่าฝนตก หรืออากาศหนาวยังไงท่านก็ปฏิบัติเหมือนพระลูกวัดท่านอื่นๆ ไม่มีเว้น
■ หลวงปู่ทุยท่านตั้งใจพาปฏิบัติแบบโบราณ ยึดกับของเก่า ไม่ใช้เทคโนโลยี ท่านบอกว่า เทคโนโลยีเข้ามาจะเป็นผลเสีย คนสมัยนี้วิ่งเร็วเกินตัวเองไปมากอันตราย
■ สำนักนี้ท่านไม่มีบอกบุญ ไม่มีเรี่ยไร ไม่มีการชวนบริจาค ไม่มีชำระหนี้สงฆ์อะไรทั้งสิ้น ไม่ขอ ไม่ตั้งตู้ให้ญาติโยมหยอดเหรียญทำบุญประจำวันเกิดเพื่อหาเงินเข้าวัด ไม่จัดงานหาเงินหาปัจจัยเข้าวัด ลองดูหาข้อมูลได้ไม่มีเลยตั้งแต่ตั้งวัดมานี้
(จะมีจัดงาน 1 ครั้งครั้งเดียวที่เห็นคืองานทอดผ้าบังสุกุลเพื่อแผ่นดินไทย (1 ก.พ.50) ที่คราวหลวงตามหาบัว มารับผ้าป่า นั่นเพียง 1 ครั้งเองเท่านั้นที่จัดงานนอกนั้นไม่มี)
■ หลวงปู่ไม่มีดำริให้ผู้ใดจัดวันเกิด และไม่อนุโลมไม่อนุญาตให้ใครมาจัดงานวันเกิดถวาย ในวัดไม่ให้จัดงานใดๆทั้งสื้นให้อึกทึก วุ่นวายโดยเด็ดขาด แม้กฐินก็ห้าม ส่วนวันเกิดไม่ให้ดำริจัดเพราะท่านไม่ยินดีในวันเกิด การเกิดถือว่าเป็นทุกข์จะยินดีอะไรอีก
■ ท่านไม่ไว้หน้าใครหากทำผิด ไม่เอาใจหรือประจบญาติโยมเพื่อหวังลาภสักการะจากเขาท่านไม่จำเป็นต้องทำ คือผิดต้องดุ ต้องตักเตือน ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ คนนี้รวยต้องได้เข้ากราบ คนนี้จนไม่ได้เข้ากราบ แบบนี้ไม่ใช่ ต้องเสมอเท่าเทียมกันหมด
■ พระเณร ไม่ให้มีกิจนิมนต์นอกวัดทั้งสิ้นโดยไม่จำเป็น
(แม้องค์ท่านเองจะไม่ไปงานนิมนต์ใดๆทั้งสิ้นหากไม่จำเป็นจริงๆจังๆ)
■ ปฏิปทาองค์ท่านไม่มีปลุกเสก ไม่มีพิธีพุทธาภิเษก (พุทธเจ้าดีแล้ว แล้วตัวเราดียังไงถึงไปปลุกเสกท่านอีก หรือไปพุทธาภิเษกท่านอีก ) ไม่มีการถือฤกษงามยามดี ไม่แต่งแก้เสียเคราะห์เสียเข็ญ ไม่เซ่นสรวงอ้อนวอนบูชาผีสางนางไม้ ไม่เป็นหมอดูหมอเดา หมอมนต์กลคาถา หรือเที่ยวทำนายทายทัก สื่งเหล่านี้มันเป็นของลัทธิพรามณ์ไม่ใช่พุทธเจ้าสอน เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้อย่าไปถามองค์ท่านเดี๋ยวจะได้ฟังเทศน์กัณฑ์ใหญ่จากท่าน
■ วัดจะไม่ใช้ไฟฟ้าและจะไม่ให้มีการต่อไฟฟ้าเข้ามาในวัดอย่างเด็ดขาด
(เข้าใจว่าในวัดพระเณรงดใช้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด แม้หนังสือพิมพ์ห้ามนำมาถวายนั่นเป็นเรื่องนอกๆของโลก)
■ ห้ามตัดต้นไม้ในบริเวณวัด และในเขตป่าสงวนของวัดอย่างเด็ดขาดจะใช้ลำไม้ได้กรณีที่ต้นไม้นั้นล้มหรือตายเอง
■ วัดไม่มีระบบประปา พระเณรจะช่วยกันไปตักน้ำมาจากบ่อบาดาลมาใส่โอ่งใส่ตุ่มไว้ใช้ ดังนั้นไม่มีค่าน้ำประปาไม่ต้องถวายปัจจัยนะ
■ ท่านก็สั่งไปทางหน่วยงานราชการว่าไม่ต้องให้ยศให้ตำแหน่งสมณศักดิ์แก่ท่าน " ท่านบอกว่า ขอเป็นพระเฉยๆ ก็พอแล้ว" และทางวัดก็จะไม่รับกฐิน เพราะไม่มีค่าใช้จ่าย จึงไม่ต้องใช้เงิน
■ พระภิกษุ-สามเณร ฉันหนเดียวเป็นวัตร ผู้มาเป็นผ้าขาว ถือศีล 8 (ชาย) ก็ทานหนเดียวเป็นวัตรเหมือนพระเณร
■ มาวัดแล้วอย่าเอาความร่ำรวย เอาปัจจัย มาพูดอวดหลวงปู่ เดี๋ยวท่านเอ็ตตะโรเอา
มาวัดแล้วไม่ต้องมาถวายปัจจัย ไม่ต้องมาถวายของอะไรทั้งสิ้น มาแล้วให้สำรวมจิตใจให้ดี กราบพระนั่งในที่เหมาะสมแล้วภาวนาดูจิตใจตัวเอง หลวงปู่เน้นให้ภาวนา
■ ฆราวาสสามารถไปภาวนาได้ กุฏิของโยม (ผู้ชายจะอยู่บริเวณรอบนอก) ระเบียบก็คล้ายๆ วัดป่าทั่วไป คือฉันมื้อเดียว เน้นภาวนา และช่วยพระทำกิจวัตร (ปัดกวาด, จัดอาหาร, ช่วยที่โรงฉันน้ำร้อน) โดยเฉพาะการภาวนา ท่านมักจะเดินมาดูว่ามา "ภาวนา" จริง หรือมา "ภาวนอน" ถ้าเห็นว่าเอาแต่นอนก็จะถูกไล่เก็บกระเป๋าทันที
■ ท่านเน้นเรื่องของการแต่งตัวเข้าวัดของผู้หญิงต้องเรียบร้อย สุภาพ ไม่นุ่งสั้น วันนั้นก็เจอไปหลายคนเหมือนกัน ที่โดนท่านอบรมสั่งสอนโดยไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น ใครใส่สั้นๆเข้ามาขอให้กลับไปเปลี่ยนแล้วค่อยมาวัดหลวงปู่ใหม่
■ ใครไปพูดเรื่องวัตถุมงคล เหรียญ ล็อกเก็ต ด้ายสายสิญจ์ เกศา ของขลัง น้ำมนต์กลคาถากับหลวงปู่ ส่วนมากจะสวนหงายหมากลับมาทันที
■ ท่านไม่ฉันน้ำขวดที่เราถวาย ท่านกับหมู่พระเณรจะฉันน้ำฝนอย่างเรียบง่าย (ไม่ต้องนำน้ำขวดในห้างร้านมาถวาย)
■ วัดท่านสะอาดมากๆ ห้องน้ำแทบจะนอนได้เลย ดังนั้นต้องถอดรองเท้าด้วยก่อนเข้าห้องน้ำวัดท่านพระเณรทำความสะอาดทุกวันเดี๋ยวจะเป็นบาป
■ ท่านก็บอกว่า ไม่ต้องเอาอะไรมาถวาย เพราะที่วัดมีเยอะแล้ว
■ ย่างเข้าเข้ามาวัดห้ามคุยกัน ห้ามอึกกระทึก เดี๋ยวจะโดนไล่ออกจากวัด มีอะไรคุยกันให้คุยให้เรียบร้อยก่อนจะย่างเข้าเข้าสู่ประตูวัด โทรศัพท์ปิดให้เรียบร้อยก่อนเดินเข้ามาในเขตวัด
■ อย่าถ่ายรูปและบันทึกภาพเสียงหากหลวงปู่ไม่ได้อนุญาต ห้ามอย่างเด็ดขาด (ใครถ่ายภาพท่าน ท่านจะบอกว่า "ไม่อ่านดูป้ายหรือเค้าเขียนว่าอย่างไร" )
■ อย่าใช้โทรศัพท์ในวัดเดี่ยวท่านไล่ให้ไปคุยนอกวัด เวลาเข้าไปแล้วอย่าพูดคุยเสียงดังกันเหมือนอยู่ในชุมชนไม่ได้
■ อย่าเข้าเดินไปเพิ่นพ่านในเขตสงฆ์หากไม่ได้รับอนุญาติ เพราะจะรบกวนพระ-เณร ที่ท่านทำความเพียร ในการเดินจงกรม-นั่งภาวนา7
■ วัดไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่ได้เสียค่าไฟ ดังนั้นไม่ต้องมาถวายปัจจัยค่าใช้จ่ายให้ ไม่ต้องมาถวายใบปวารณา ให้เอาไปดูแลพ่อแม่ให้ดีอย่าให้ขาดให้เกิน พระไม่จำเป็นต้องใช้ปัจจัย ในวัดไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร อย่านำมาถวาย และไม่มีตู้ให้รับบริจาค วัดไม่ได้สร้างโน่นสร้างนี่
■ เรื่องเอารถไปให้ท่านเจิมนี่ก็โดนท่านว่าไปหลายรายแล้ว (เข้าใจว่าพระไม่ใช่นักเจิมรถนั่นมันศาสนาพรามณ์ไม่ใช่พุทธ พุทธเจ้าไม่ทรงสอน มีสติก็ขับไปดีมาดีปลอดภัย ถึงคราวถึงเวลาตายจะเจิมยังไงมันก็คว่ำ ก็ชน ตายเหมือนกัน)
ชุลีพร
13 มี.ค. 2561
13 มี.ค. 2561
13 มี.ค. 2561
13 มี.ค. 2561